​พริกเผ็ดถึงใจสลายโรค!!

พริกเผ็ดถึงใจสลายโรค
          อาการน้ำตาเล็ดหลังการกินอาหารรสเผ็ดจัดมาจากเม็ดพริกสีแดงสดที่แม่ครัวกระหน่ำใส่ลงในเมนูนั้น แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเผ็ดไปไม่นาน เราจะรู้สึกโล่งจมูกและหายใจโล่งขึ้น 
          ชวนให้สงสัยว่า การกินพริกนี้ส่งผลดีหรือผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

ทำไมพริกจึงเผ็ด
           พริกมีรสเผ็ดเพราะว่ามีสารชนิดหนึ่งคือ แคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติจำพวกแอลคาลอยด์ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทนทานต่อความร้อนและความเย็น ดังนั้น การต้มให้สุกหรือแช่แข็งก็ไม่มีผลทำให้รสเผ็ดสูญเสียไป
แคปไซซินจะพบมากอยู่ในเยื่อแกนกลางสีขาวหรือเรียกกันว่า รก (Placenta) ส่วนเปลือกและเมล็ดของพริกจะมีสารแคปไซซินน้อยมาก ซึ่งคนทั่วไปมักคิดว่าเมล็ดของพริกคือส่วนที่เผ็ดที่สุด
เราสามารถเรียงลำดับความเผ็ดของพริกจากมากไปหาน้อย คือ พริกขี้หนู พริกเหลือง พริกชี้ฟ้า พริกหยวก และพริกหวาน
นอกจากความเผ็ด ในพริกยังมีสารอาหารอีกเป็นจำนวนมาก เช่น เส้นใยแคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 ไนอะซิน และที่สำคัญคือ วิตามินซี ซึ่งมีปริมาณสูงมากถึง 44 มิลลิกรัม (ต่อน้ำหนัก 100 กรัม)

กินพริกสลายโรค
           ชมนาดรวบรวมผลงานวิจัยมาเล่าให้ฟังว่า กินพริกมีผลดีอย่างไรต่อสุขภาพดังนี้ค่ะ
          1. ลดความเสี่ยงเกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหัวใจขาดเลือด
          มีการศึกษาในหลอดทดลองพบว่า แคปไซซินสามารถลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดได้ และจากการศึกษาในคนพบว่า เมื่อให้กินพริกขี้หนูสด 5 กรัม สับละเอียดพร้อมน้ำ 1 แก้ว แล้ววัดค่าการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดออกไป
          และยังศึกษาในระยะยาวโดยให้คนกินพริกขี้หนูวันละ 5 กรัมพร้อมอาหารปกติเป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่า หลังจากกินแล้ว 4 สัปดาห์ การจับกลุ่มของเกล็ดเลือดก็มีการยืดระยะเวลาออกไปเช่นกัน
          การที่เกล็ดเลือดมีการจับกลุ่มหรือรวมตัวกันยากนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดและภาวะหัวใจขาดเลือด

          2. บรรเทาอาการไข้หวัดและช่วยให้หายใจสะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากสารแคปไซซินที่อยู่ในพริกจะช่วยลดน้ำมูกหรือสิ่งกีดขวางระบบทางเดินหายใจ
           3. ลดปริมาณคอเลสเตอรอล แคปไซซินช่วยป้องกันไม่ให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ขณะเดียวกันส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดีแก่ร่างกาย และทำให้ไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดลดต่ำลง
          4. ทำให้อารมณ์แจ่มใส เนื่องจากสารแคปไซซินนี้จะมีการส่งสัญญาณไปที่ต่อมใต้สมองให้หลั่งสารเอนดอร์ฟินที่ออกฤทธิ์คล้ายมอฟีน จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และทำให้อารมณ์แจ่มใส
          เห็นประโยชน์และโทษของพริกแล้วก็เลือกกินอย่างพอดีๆ เห็นจะได้ประโยชน์สูงสุดค่ะ
ใครต้องระวังการกินพริก
ผู้ป่วยโรคกระเพราะอาหารอักเสบ เนื่องจากสารแคปไซซินในพริกมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อกินเข้าไป กรดในพริกจะเข้าไปกัดกระเพาะอาหารให้เป็นแผล
เด็กและผู้สูงอายุที่สำลักง่าย เพราะถ้าสำลักเข้าไปในหลอดลม แคปไซซินที่เป็นกรดอาจกัดหลอดลม ทำให้เกิดปัญหาหลอดลมหดเกร็ง ตีบ บวม และหายใจไม่ออก

_____________________________________________________

Data from: ThaiJobsGov